SYMBOLS & PICTURE
PIANGERO LA SORTE MIA
Opera Giulio Cesare
ดอกกุหลาบ
กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามประวัติศาสตร์เล่าว่ากุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรักอีกด้วย
มีตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า
"น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม"
https://hilight.kapook.com/view/17583
คุก
คุกแบบที่เรารู้จักกันได้มีต้นกำเนิดในช่วง 3000 BC
เกือบทุกๆอารยธรรมโบราณใช้คุกเป็นตัวกักขังหรือยึดเหนี่ยวอิสรภาพของผู้ถูกขัง ในช่วงเวลาเหล่านั้น คุกเปรียบเสมือนตัวกักขังชั่วคราวก่อนการประหาร หรือการถูกขายทาสตลอดชีวิต เมื่อช่วงเวลาผ่านไปเรื่อยๆ สังคมมนุษย์ก็พัฒนา และได้มีการให้ความสำคัญกับ ความเท่าเทียมมากขึ้น คุกก็ค่อยๆกลายมาเป็นเหมือนที่ปรับความประพฤติแทน และบางทีก็สามารถใช้หน่วงเหนี่ยวนักโทษหรือผู้ไม่หวังดีทางการเมืองได้อีกด้วย
http://www.prisonhistory.net/prison-history/history-of-prisons/
อาณาจักรอียิปย์โบราณ
กำเนิดแห่งอาณาจักรอียิปต์โบราณ
ถือกำเนิดขึ้นในราว 3200 ปีก่อนคริสตกาล โดยราชาแมงป่อง (Scorpion king) ผู้ครองนครธีส (This) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณตอนกลางแห่งลุ่มน้ำไนล์ พระองค์ได้กรีฑาทัพเข้ายึดครองนครรัฐต่างๆ ในอียิปต์บนและตั้งตนเป็นฟาโรห์แห่งอาณาจักรอียิปต์ทางตอนบน ราชาแมงป่องปรารถนาจะรวมอียิปต์เข้าด้วยกันแต่พระองค์สิ้นพระชนม์เสียก่อน ต่อมาโอรสของพระองค์ นามว่า นาเมอร์ (Namer) ได้สานต่อนโยบายและกรีฑาทัพเข้าโจมตีอียิปต์ตอนล่าง ในที่สุดเมื่อถึงสมัยของฟาโรห์เมเนส (Menese) พระองค์สามารถรวมทั้งสองอาณาจักรเข้าด้วยกันได้สำเร็จ และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นฟาโรห์พระองค์แรกของอียิปต์โดยตั้งเมืองหลวงที่ เมมฟิส (Memphis) ซึ่งอยู่ตอนกลางของลุ่มน้ำไนล์
ฟาโรห์เมเนสเป็นฟาโรห์องค์แรกแห่งราชวงศ์ที่หนึ่งของอียิปต์โบราณ ซึ่งยุคนี้เมืองหลวงของอียิปต์คือ นครเมมฟิส (Memphis) ซึ่งชาวอียิปต์โบราณเชื่อกันว่า องค์ฟาโรห์คือร่างประทับของสุริยเทพ ที่ลงมาปกครองมนุษย์
https://ngthai.com/history/12479/ancient-egypt-kingdom/
"ดอกกุหลาบ"
เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์รูปภาพแทนอุปรากร
เรื่องนี้เนื่องจาก มองถึงความรักของคีโอพัตราที่มีต่อซีซ่า
ความรักที่มอบให้กันแม้ในวันที่อีกคนไม่อยู่ตรงหน้าอีกแล้ว
"คุก"
เนื่องจาก คุกก็เหมือนแทนการกักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่เป็นอิสระ
ถ้าได้อ่านและศึกษาในหน้าโปรแกรม ของบทเพลงและอุปรากรเรื่องนี้แล้ว
จะเห็นได้จากบทละคร ว่านางเอกคีโอพัตราโดนน้องชายตนเอง
จับขังคุก จากเหตุมีสงครามแย่งชิงการปกครองอียิปย์
อีกทั้งยังต้องพรากจากกับซีซ่า ชายหนุ่มที่ตนเองรัก ทำให้นางเสียใจ
ไม่มีอิสระ และตัดพ้อกับโชคชะตาของตนเอง
"อาณาจักรอียิปย์โบราณ"
เป็นภาพที่เห็นได้ชัดเจนและบ่งบอกถึงสถานที่ ที่เกิดในเหตุการณ์นั้นๆ จากอุปรากร เราต้องการพาผู้ชมทุกท่านหลุดเข้าไปสู่ห้วงของอาณาจักรอียิปย์โบราณ ความสวยงามที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ และเป็นที่จดจำ
FLEUR JETEE
ฟ้าผ่า
ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า (Thunder) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่ของประจุอิเล็กตรอนภายในก้อนเมฆ หรือระหว่างก้อนเมฆกับก้อนเมฆ หรือเกิดขึ้นระหว่างก้อนเมฆกับพื้นดิน การเคลื่อนที่ขึ้นลงของกระแสอากาศ (updraft/downdraft) ภายในเมฆคิวมูโลนิมบัส ทำให้เกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าในแต่ละบริเวณของก้อนเมฆและพื้นดินด้านล่าง เมื่อความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างตำแหน่งทั้งสองที่มีค่าระดับหนึ่ง จะก่อให้เกิดสนามไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยมีประจุบวกอยู่ทางด้านบนของก้อนเมฆ ประจุลบอยู่ทางตอนล่างของก้อนเมฆ พื้นดินบางแห่งมีประจุบวก พื้นดินบางแห่งมีประจุลบ ซึ่งจะเหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า
ในความคิดของสิ่งมีชีวิต มนุษย์ หลายๆคน มักจะมองว่า ฟ้าผ่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว ทั้งในเรื่องของฟ้าที่มีสีเป็นแสงสีๆเหมือนไฟ มีเสียงมีดัง และในยามฟ้าผ่าทุกคนมักอยู่ในบ้าน หรือหลบอยู่ในที่ๆปลอดภัย ไม่เผชิญกับท้องฟ้าโดยตรง
https://ngthai.com/science/21830/thunders/
เลือด
อาจกล่าวได้ว่า เลือดดุจเป็นพลังงานแห่งชีวิต เป็นของเหลวที่หล่อเลี้ยงให้ทุกชีวิตดำรงสภาพความเป็นอยู่อย่าง ‘สิ่งมีชีวิต’ ได้ เลือดจัดเป็นเนื้อเยื่อสัมพันธ์ชนิดหนึ่งซึ่งมีสารระหว่างเซลล์เป็นของเหลว สำหรับสีของเลือดนั้น เลือดที่อยู่ในหลอดเลือดดำ จะมีสีแดงเข้มมากกว่าเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดแดง ส่วนรส เลือดจะมีรสเค็มคล้ายกับรสที่มีโลหะผสม
https://www.doctor.or.th/article/detail/3800
เงา
เงาคืออะไร
เงา หรือ Shadowคือ อาณาเขตหลังวัตถุที่แสงฉายไปกระทบวัตถุนั้น ไม่สามารถเดินทางไปถึงได้หรือเดินทางไปถึงเพียงบางส่วน
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
1.เงามืด เป็นอาณาเขตหลังวัตถุ แสงกระทบวัตถุแล้ว จะไปไม่ถึงบริเวณนั้นเลย
2.เงามัว เป็นอาณาเขตหลังวัตถุ แสงกระทบวัตถุแล้ว จะไปถึงเพียงบางส่วนที่บริเวณนั้น
ในตัวอย่างความคิด กรอบของคนเป็นสิ่งที่คนมีแต่มักจะไม่ได้สนใจ เป็นจุดสังเกต หรือมอง เราจะเห็นเงาได้ชัดก็ต่อเมื่อ มันมีแสง เมื่อถ้าเราตั้งใจมองดีๆมันอาจจะเห็นเรามีอีกมุมนึงที่เราไม่เคยเห็น
https://www.wannaphong.com/2014/11/shadow.html
Rossakorn Pungthongthai
"ฟ้าผ่า"
ถ้าได้ฟังตอนเริ่มต้นเปียโนของบทเพลง Fleur jetee เราจะได้ยินเสียงของเปียโนที่สอดคล้องกับฟ้าที่กำลังผ่า เพราะโน้ตของเปียโนมีความอึกกะทึก มีจังหวะ ความตื่นเต้น และเรียกความสนใจให้กับเพลงได้เป็นอย่างมาก
"เลือด"
เรามองความหมายของเลือดได้หลายรูปแบบ
เลือด ก็เหมือนความรัก เพราะเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงเรา ทั้งชีวิตของผู้หญิงคนนี้ยังยึดติดอยู่กับความรัก เลือดเป็นสิ่งที่มนุษย์ขาดไม่ได้ ความรักของผู้หญิงคนนี้ก็เช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ก็ขาดความรักไม่ได้ เพราะความรักทำให้ ความเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ
"เงา"
เงาในที่นี้เเทนเหมือน ผู้ชายที่ผู้หญิงรัก ในความเป็นจริงตอนนี้เค้าไม่ได้มีตัวตนให้เราเห็น หรืออยู่ข้างกายเรา ผู้ชายคนนี้เป็นความคิดที่อยู่ในมุมมืด และ อยู่ในส่วนลึกสุดภายใต้จิตใจของผู้หญิง
ที่ยังตามติดเค้าทุกเมื่อ ยังคิดถึงเสมอ ไม่เคยหายจากไปไหน
THE BLACK SWAN
Opera The Medium
หงส์ดำ
มีภาษิตโบราณของตะวันตกกล่าวไว้ว่า
"All Swans Are White" หรือ "หงส์ทุกตัวเป็นสีขาว"
หงส์ดำ เพิ่งจะถูกค้นพบในทวีปออสเตรเลีย ในศตวรรษที่ 17 หรือ 400 กว่าปีที่แล้ว (ตรงกับสมัยอยุธยาตอนกลาง)
ก่อนหน้านั้น ผู้คนต่างเข้าใจว่า ขึ้นชื่อว่า "หงส์" มีเฉพาะ "สีขาว" เท่านั้น หงส์สีอื่น รวมทั้ง "หงส์ดำ" เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในโลก
แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อมีคนพบ "หงส์ดำ" จึงเป็นที่ฮือฮา
ในปี 2007 มีนักเขียนคนหนึ่ง ชื่อ Nicholas Nazim Taleb ออกหนังสือชื่อ "The Black Swan: The Impact of the Highly Improbable" เป็นหนังสือ Bestseller เล่มหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
เขาเปรียบเทียบปรากฏการณ์ต่างๆในโลกนี้ ที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน แต่แล้ววันหนึ่งมันก็เกิด และได้ส่งผลสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วโลก ว่าเป็น "ปรากฏการณ์หงส์ดำ"
http://www.cheechud.com/2010/03/blog-post_30.html
วิญญาณ
วิญญาณเป็น พลังงานชนิดหนึ่ง แต่เป็นพลังงานที่ เป็นนามธรรม คำว่านามธรรม หมายความว่า สิ่งที่ไม่สามารถสัมผัส ได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ จะใช้ตาดู
ใช้หูฟัง ใช้จมูกดมกลิ่น ใช้ลิ้นชิมดู หรือใช้มือจับถูก ต้องไม่ได้ แต่วิญญาณก็ไม่ใช่สิ่งลึกลับ เพราะ วิญญาณได้แสดงตัวออกมาเสมอ ดังที่ได้กล่าวมา แล้วว่า ตาเห็น ก็คือวิญญาณเห็น หูได้ยิน คือวิญญาณได้ยิน สมองนึกคิดก็คือ วิญญาณนึกคิด
http://www.dhammathai.org/webboard/dbview.php?No=879
มงกุฎดอกไม้เจ้าสาว
เชื่อกันว่า “มงกฎ” เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ อำนาจ ความสำเร็จ และการได้รับรางวัลอย่างสมเกียรติ เป็นของขวัญที่ถูกมอบให้ในช่วงเวลาที่มีคุณค่าต่อจิตใจ ดังนั้น มงกุฎที่ถูกทำขึ้นด้วยดอกไม้ จึงเป็นความผสมผสานระหว่างความมุ่งมั่นในชัยชนะตามนิยามของมงกุฎ และความอ่อนโยนซึ่งเปรียบเสมือนความอ่อนโยนของกลีบดอกไม้
ส่วนประกอบของมงกุฎนอกจากจะมีดอกไม้นานาชนิดที่ให้สีสันสวยงามสะดุดตาแล้ว ยังให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่สามารถสร้างความสดชื่น และความรู้สึกผ่อนคลายให้กับผู้สวมใส่และผู้คนรอบข้างด้วย นอกจากนี้ดอกไม้แต่ละชนิด และแต่ละสียังแฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งแตกต่างกันไป
"หงส์ดำ"
หรืออาจจะแทนประโยคที่ว่า "ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน"
เราตีความไปที่ตัวความหมายของบทเพลง ว่าเกี่ยวกับคนรักของMonicaที่เป็นใบ้ ที่ถูกแม่ของเธอเองฆ่าตาย คนรักของเธอถูกฆ่าโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว และร่ำลา ทั้งสองต้องพรากจากกัน ทั้งความรัก ความคิดถึง การจากไปอย่างไม่มีวันกลับ และตัวของMonicaเอง ก็ยอมรับไม่ได้ ที่จะต้องอยู่เพียงลำพังกับลูกในท้องของเธอโดยที่ปราศจากคนรัก
ถึงแม้ฉากในเพลงจะเป็นตอนที่Monicaกำลังปลอบแม่ของเธอที่หลอนว่ามีใครมาบีบคอด้วยความห่วงใยก็ตาม
"วิญญาณ"
เป็นสิ่งที่ปรากฎโดยตรงอยู่ในตัวเพลง และ อุปรากรเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นภาพที่สื่อความหมายได้อย่างชัดเจน อีกทั้งรูปภาพของวิญญาณยังเป็นตัวช่วยที่จะทำให้ตัวเพลงรู้สึกมีความหลอน น่ากลัว ลี้ลับได้มากขึ้นอีกด้วย
"มงกุฎดอกไม้เจ้าสาว"
เรามองถึงในตัวเนื้อหาของเพลงเช่นกัน เเทนความรักของ Monica ที่มีแด่คนรักของเขา ความรัก ความหวังที่จะได้อยู่ด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน คำๆนี้ (Bridal Crown)ได้นำมาจาก เนื้อเพลงของเพลง
The Black Swan มีการใช้วนกลับมาหลายครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคำๆนี้ ผู้เเต่งเนื้อเพลง ให้ความหมายแฝง และ ความสำคัญกับคำพอสมควร
SONG TO THE MOON
Opera Rusalka
ดวงจันทร์
แม้ว่า "ดวงจันทร์” จะเป็นดินแดนนอกโลกแห่งเดียวที่มนุษย์ได้เดินทางไปสำรวจมาแล้ว แต่ดวงจันทร์ก็ยังมีความลี้ลับที่ทำให้เกิดความเชื่อ ตำนาน บทเพลง และเรื่องราวต่างๆมากมาย อันชวนให้มนุษย์ต้องไปค้นคว้า ไขว่หาดังต้องมนต์นับแต่อดีตมาจนปัจจุบัน
ในระบบสุริยจักรวาล ที่โลกเราอยู่นี้ ดวงจันทร์ หรือที่ชาวโรมันเรียกว่า "ลูน่าร์” และชาวกรีกเรียกว่า "เซเลเน่” หรือ "อาร์เทมิส” เป็นเทหวัตถุ(ก้อน/ชิ้นหรือส่วนหนึ่งของสสาร ที่อาจเป็นของแข็ง ของเหลวหรือแก๊สก็ได้) ที่สว่างเป็นที่สองรองจากดวงอาทิตย์ เป็นดาวเคราะห์ที่ไม่มีแสงสว่างในตนเอง
สำหรับบทเพลงที่เกี่ยวกับ ดวงจันทร์ พระจันทร์ที่เราคุ้นหูตั้งแต่เด็กก็คือ จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า ฯ แล้วก็ยังมีเพลงที่แสดงให้เห็นว่า ผู้แต่งเพลงทั้งหลายผูกพันหรือต้องมนต์ของพระจันทร์อยู่ไม่น้อย เช่น เพลงโสมส่องแสง จันทร์แจ่มฟ้า และลาวดวงเดือน เป็นต้น ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่าแสงสกาวสุกใสในคืนวันเพ็ญ ทำให้เกิดความรู้สึกโรแมนติก และมีผลต่อจินตนาการของนักกวี นักแต่งเพลง และนักเขียนซึ่งไม่เฉพาะบ้านเราเท่านั้น แต่เข้าใจว่ามีอยู่ในทุกประเทศด้วย
https://www.m-culture.go.th/young/ewt_news.php?nid=321
"ดวงจันทร์"
ขอตีความเพลงนี้ไปที่ ดวงจันทร์ทั้งหมด
ดวงจันทร์ในยามค่ำคืนมืดนั้น แม้ท้องฟ้าจะมืดสักเพียงใด ก็ยังมีแสงของดวงจันทร์นำทาง และอยู่ข้างๆเรา เหมือนความรักแม้จะคิดถึงคนรัก หรือเหงาเพียงใด รอบกายจะมิได้มีแต่ความมืดเท่านั้น ยังมีดวงจันทร์ส่องแสง ดวงจันทร์จะคอยอยู่เป็นเพื่อน
และบอกเราว่า พรุ่งนี้จะดีกว่าเดิม
Sous le dôme épais -Flower Duet-
Opera Lakme
ธงชาติอังกฤษ และ ธงชาติอินเดีย
ธงชาติอังกฤษ มีชื่อเรียกว่า ธงเซนต์จอร์จ มีลักษณะเป็นกากบาทสีแดง ใช้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษตั้งแต่ยุคกลาง โดยได้รับสถานะเป็นธงชาติของอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 16
เมื่อครั้งราชอาณาจักรอังกฤษรวมกับราชอาณาจักรสกอตแลนด์ภายใต้พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (หรือเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์) ธงเซนต์จอร์จก็ได้รวมกับธงเซนต์แอนดรูว์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสกอตแลนด์ และเกิดเป็นธงสหภาพหรือยูเนียนแจ็ครุ่นดั้งเดิม ซึ่งธงนี้ต่อมาก็เป็นธงชาติของสหราชอาณาจักร และรวมกับธงเซนต์แพทริกของไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นยูเนียนแจ็กรุ่นปัจจุบัน
ธงชาติสาธารณรัฐอินเดีย (National Flag) นิยมเรียกว่า “ไตรังคา” เป็นคำที่มีความหมายเดียวกับคำว่า “ไตรรงค์” ซึ่ง แปลว่า “สามสี” ลักษณะเป็นแถบสีแนวนอนสามสี สีแสดหรือเหลืองเข้ม (แสดงถึง ความกล้าหาญและการเสียสละ) อยู่ด้านบนสุด สีขาว (แสดงถึง สันติภาพและสัจจะ) อยู่ตรงกลาง และสีเขียวเข้ม (แสดงถึง ศรัทธาและความกล้าหาญ) อยู่ด้านล่าง ทั้งสามแถบสีมีสัดส่วนที่เท่าเทียมกัน อัตราส่วนความกว้างต่อความยาวของธง เท่ากับ 2:3
ตรงกลางผืนธงที่เป็นแถบขาวมีวงล้อธรรมจักรสีน้ำเงินเข้ม ได้แบบมาจากวงล้อธรรมจักรที่ปรากฏอยู่บนหัวเสาของพระเจ้าอโศกมหาราชที่สารนาถ มีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับความกว้างของแถบสีขาวกลางผืนธง รูปธรรมจักรนั้นมีซี่ล้อ 24 ซี่ อันเป็นสัญลักษณ์ของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แต่ในธงนี้ได้ใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศอินเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/ธงชาติอังกฤษ
ดอกมะลิขาว
ดอกมะลินี้ แท้ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นดอกไม้พื้นเมืองของไทย โดยสันนิษฐานว่าน่าจะนำเข้ามาจาก อินเดียตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ( พร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาพุทธ ) เพราะถิ่นกำเนิดดอกมะลิอยู่ แถบเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาหิมาลัยนี้บางตำนานก็ว่าเป็นที่ประทับของพระนารายณ์ หนึ่งในสามเทพตรีมูรติตามความเชื่อพราหมณ์-ฮินดู ชาวอินเดียก็เลยถือว่าดอกมะลิเป็นดอกไม้ประจำองค์. พระนารายณ์ เวลาทำพิธีบูชาพระนารายณ์ก็จะใช้ดอกมะลิเป็นของถวายหลัก เช่น เมื่อทำพิธีสรงสนานเทวรูปของพระองค์ก็จะนำดอกมะลิลอยในน้ำที่ใช้สรง นอกจากพระนารายณ์ เทพเจ้าพราหมณ์-ฮินดูอีกองค์ที่มีความเกี่ยวข้องกับดอกมะลิอย่างมากก็คือเทพแห่งความรักหรือ พระกามเทพ หลาย คนคงคุ้นเคยกับเทพอิรอสหรือคิวปิด กามเทพตาม ตำนานกรีก-โรมันที่ใช่ลูกศรยิงใส่คนสองตนให้รักกัน
จากอินเดียมาเล็กน้อยมาทางตะวันออกกลาง ก็พบความเชื่อเกี่ยวกับดอกมะลิ คำว่า จัสมิน (jasmine) ที่เป็นชื่อภาษาอังกฤษของมะลิ มีที่มาจากคำในภาษาอาหรับว่ายาสมีน ซึ่ง มีความ หมายว่าของขวัญจากพระเจ้า มีที่มาจากความเชื่อทางศาสนาอิสลามที่ว่า ดอกมะลิเป็นของขวัญที่องค์อัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดของศาสนาอิสลามประทานให้แก่โลก ลักษณะเด่นของดอกมะลิ
ทั้งสีขาวบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมชื่นใจ ก็ดูจะเป็นตัวแทนของความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์
https://sites.google.com/site/khymbf/tanan-dxk-hiyasinth-hyacinth
